ชื่อภาษาไทย ง้วนนที รสทิพย์
ชื่อพื้นเมืองอีสาน ลาบเทา
ลาบเทา |
ลาบเทาเป็นอาหารพื้นเมืองที่ กลั่นกรองออกมาจากภูมิปัญญา คนอีสานแต่กาลโพ้น
เทา ก็คือ สาหร่ายน้ำจืด
สาหร่ายเป็นสิ่งมีชีวิตมีคู่กับโลกเฮามานานมาก “ในสมัยพุทธกาลเรียกเทาว่า “กระบิดิน”
เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมากของมนุษยชาติ และเป็นแหล่งอาหารคุณภาพสูงของผู้คนทั้งหลาย
จึงนำมาบริโภคกันในหลายรูปแบบประเทศที่มีการบริโภคสาหร่ายอย่างแพร่หลายคือ จีน และญี่ปุ่น ส่วนประเทศอื่นก็มีการบริโภคกันบ้างแม้แต่ไทอีสาน และ ไทภาคเหนือของเฮา แต่สาหร่ายที่นิยมจะเป็นชนิดที่แตกต่างกันไปตามที่มีอยู่ในท้องถิ่น
เทาคือ
Spirogyra สไปโรไจรา เป็นสาหร่ายที่ชอบขึ้นในน้ำจืดที่สะอาดทั้งน้ำนิ่ง และน้ำไหลเอื่อยๆ มีสีเขียวเป็นเส้นกลมยาวขนาดเล็กพันกันเป็นเกลียวนิ่มลื่นมือพบได้ในแหล่งน้ำภาคเหนือและอิสานเรียกสาหร่ายชนิดนี้ว่า เทา หรือผักไกนิยมนำมาบริโภคในรูปผักจิ้มน้ำพริก ทำลาบ และมีรายงานว่าเป็นสาหร่ายที่นิยมบริโภคในประเทศพะม่า เวียตนามและอินเดียด้วย
เห็นบ่ คนวัฒนธรรมอื่นเขากะกิน เทาคือกัน มันต้องมีดีหละเขาจั่งกินกัน
ใช้เป็นปุ๋ยชีวภาพ จากการวิจัยของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
พบว่าสาหร่ายสีเขียวในนาข้าวบางชนิดสามารถตรึงไนโตรเจนในอากาศให้เป็นสารประกอบไนโตรเจน เช่น แอมโมเนียม
ทำให้ข้าวเจริญเติบโต ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ Anabaena sp. และ Nostoc sp.
(เอาหละหว่าหนทางรอด สำรับเกษตรอินทรีย์ชาวนาไทย ลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้ เพราะนำเทา มาปล่อยตามทุ่งนา
ธรรมชาติบำบัด ลดต้นทุน ทิ้งห่างเวียดนาม ชนิดไง่ง่อง)
สังเกต นาข้าวไผงามดินดี มักจะมีเทาขึ้นตามไฮ่นา รับรองข้าวงาม ซ้างเหยียบตอเฟียงบ่ล้ม คนโบราณว่า
1 ไปหา ทาวเอาเทา ตามห้วยหนองคลองบึง ไฮ่นา ควรเลือกแหล่งน้ำที่สะอาด เชื่อใจได้
เทาจะเกิดก็ต่อเมื่อ มีอุณหภูมิและช่วงเวลาที่เหมาะสม ปีหนึ่ง มักจะเกิดแค่ 2 ครั้ง
คือ ช่วงข้าวเขียว (กลางฤดูฝน ) และ ในฤดูหนาว
2 นำเทามาล้างน้ำหลายๆครั้ง จนได้เนื้อเทาที่สะอาด สีเขียวมรกต
3 ต้มน้ำฮ้อนๆ มาลวกเทา แล้วเทน้ำทิ้ง ลวกใหม่อีกครั้ง ทำประมาณ 3 ครั้ง ฆ่าแม่พยาธิ
4 นำปลาป่นมากวนลงไปให้เข้ากัน แล้ว เทเครื่องปรุง เช่น ข้าวคั่ว พริกป่น ลงปรุงรส ด้วยน้ำปลาแดก
ข้อควรระวังในขณะ เทข้าวคั่วกับพริกป่นลงปรุง อาจเกิดอาการ “แฮดดัง” จนต้องจาม
หากจะ จาม ต้องหันหน้า ออกจากกาละมังลาบเทา ขณะจามแทนที่จะ เปล่งเสียง ฮัดเช้ย !
ให้อุทานจามคำว่า “ ฮี้.....ส๊วด! “ แทน มันเป็นคาถา
5 เอาผักหอมต่างๆ (หั่นแล้ว) ลงกวนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ ยกลงมาปันกัน ซูด
คันบ่แซบกะ ขุ ผงนัว ลงจั๊กหน่อย อย่าลืมแบ่งแม่ใหญ่ต้อย ผู้เลาป้อยผัวเป็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น